ปัญหาจริยธรรมในอาชีพคอมพิวเตอร์
เป็นผลมาจากวิชาชีพคอมพิวเตอร์นั้นส่วนใหญ่มักเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับจริยธรรมเช่นการไม่เคารพสิทธิมนุษยชนการไม่เคารพความเป็นส่วนตัวการทำซ้ำการดัดแปลงข้อมูลโดยไม่ถูกต้อง เป็นต้นโดยลักษณะของปัญหาที่เกิดขึ้นพอสรุปได้ ดังนี้
-
การใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายผู้อื่นเช่นการทำลายข้อมูลการปรับเปลี่ยนโปรแกรมเพื่อให้ทำงานผิดพลาด
การใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายผู้อื่นเช่นการทำลายข้อมูลการปรับเปลี่ยนโปรแกรมเพื่อให้ทำงานผิดพลาด
-
การรบกวนทางคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น เช่น
การแพร่ไวรัสคอมพิวเตอร์
-
การละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเช่นการลักลอบแอบดูแฟ้มข้อมูล
การตัดต่อภาพลามกอนาจารโดยมิชอบ
-
การใช้คอมพิวเตอร์ก่ออาชยากรรมเช่นการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องช่วยในการโจรกรรมหรือก่อการร้าย
-
การใช้คอมพิวเตอร์ทำเรื่องผิดกฎหมายเช่นการใช้เพื่อสร้างหลักฐานเท็จ
การปลอมแปลงเอกสาร การเผยแพร่ภาพที่ชัดต่อศีลธรรมทางอินเทอร์เน็ต
จริยธรรมในการประกอบอาชีพคอมพิวเตอร์
ในการกำหนดจริยธรรมทางวิชาคอมพิวเตอร์แต่ละสมาคมมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันไปแต่ก็อยู่ในหลักพื้นฐานเดียวกัน
คือ หลักจริยธรรม เช่น การกำหนดจริยธรรมสมาคม ACM
พระบรมราโชวาทเกี่ยวกับทำงาน
การทำงานให้สำเร็จขึ้นอยู่กับความสามารถสองอย่างเป็นสำคัญ
คือสามารถในการใช้วิชาความรู้อย่างหนึ่ง สามารถในการประสานสัมพันธ์กับผู้อื่น
อย่างหนึ่ง
ทั้งสองประการนี่จำต้องดำเนินคู่กันไปและจำเป็นต้องกระทำด้วยความสุจริตกายสุจริตใจด้วยความคิดเห็นที่เป็นอิสระปราศจากอคติ
และด้วย ความถูกต้องความเหตุ ตามผลด้วย จึงจะช่วยให้งานบรรลุจุดมุ่งหมายและเป็นประโยชน์ที่พึงประสงค์โดยครบถ้วน
แท้จริง
|
1.
ทำเพื่อสังคม และบุคคล
2.
ไม่ทำร้ายผู้อื่น
3.
ยุติธรรม และไม่ทำการใดๆ
ที่เป็นการกีดกัน
4.
ซื่อสัตย์ และเป็นที่ไว้วางใจ
5.
ให้การยอมรับสิทธิอื่นในทรัพย์สินทางปัญญา
6.
ให้การยอมรับในสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น
7.
การเก็บรักษาความลับ
1.
ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายผู้อื่น
หรือละเมิดผู้อื่น
2.
ไม่ทำการรบกวนการทำงานของผู้อื่น
3.
ไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
4.
ไม่สเปอดแนมแก้ไขหรือเปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่น
5.
ไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อสร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
6.
ไม่คัดลอกโปรแกรมของผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์
7.
ไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนโดยไม่ได้รับอนุญาต
8.
ไม่ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ที่ตนเองไม่มีสิทธิ์
9.
ไม่กระทำสิ่งที่ก่อให้เกิดผลเสียหายต่อสังคม
10.
ไม่ใช้คอมพิวเตอร์อย่างไม่มีมารยาท
โดยไม่เคารพต่อกฎและกติกา
มารยาทในการใช้ระบบเครือข่ายและอินเตอร์เน็ต
มีลักษณะการเขียนภายในให้ส่งต่อไปเรื่อยไม่รู้จบจดหมายที่มีการลงท้ายว่า
ถ้าผู้ได้รับไม่ส่งต่อไปจะประสบเคาระห์ร้าย
ถ้าส่งต่อจะพบแต่สิ่งที่ดีจะส่งไปกี่ฉบับขึ้นตัวจดหมาย
|
1.)
ไม่ควรส่งจดหมายข่าวลือหรือจดหมายลูกโซ่
2.)
ไม่ควรตั้งชื่อ
URL
โดยใช้อักษรหลายขนาดปะปนกันเพราะจำทำให้สับสนและจดจำยาก
3.)
ไม่ใส่รูปที่มีขนาดใหญ่ในเว็บเพจเพราะจะทำให้ผู้ใช้งานเสียเวลาการเรียกดู
4.)
เมื่อต้องการลิงค์เว็บเพจที่สร้างไปเว็บเพจของผู้อื่น
ควรแจ้งให้เจ้าของเว็บเพจทราบด้วยทุกครั้ง
5.)
ไม่ควรเผยแพร่ข้อความหรือรูปภาพที่เข้าข่ายลักษณะลามกอนาจารลงในเว็บไซต์
ผู้จัดทำเว็บไซต์ควรรับผิดต่อสังคม
6.)
ควรใส่อีเมล
แอดเดรสของผู้จัดทำเว็บเพจไว้ด้านล่างของเว็บเพจแต่ละหน้า
เพื่อใช้สามารถติดต่อหรือสอบถามเพิ่มเติมได้
7.)
ควรใส่ URL ใว้ด้านล่างของเว็บเพจแต่ละหน้าเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งานจะได้ใช้เป็นแหล่งข้อมูลอ้างอิงได้
8.)
ควรใส่วันที่ในการ
Update
ข้อมูลเว็บเพจเพื่อแสดงให้ผู้ใช้เห็นว่าเป็นข้อมูลที่หันสมัยได้รับการ
Update หรือแก้ไขแล้ว
เพราะเหตุใดต้องหมั่นดูแลจำนวนจดหมายใน
Inbox และออกจากระบบทุกครั้งหลังการเลิกใช้งาน
ตอบ หมั่นดูแลลบจดหมายที่ไม่สำคัญหรือไม่ต้องการทิ้งไปออกจากระบบหลักเลิกใช้งานเพื่อลดปริมาณการใช้เนื้อที่ของพื้นที่เว็บ
|
1)
หมั่นตรวจสอบดูแลจำนวนจดหมายให้อยู่ในตู้จดหมายให้น้อยที่สุด
2)
หมั่นตรวจสอบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ของตนเองทุกวันจัดเก็บแฟ้มข้อมูลจดหมายของตนตามระเบียบที่มีผู้บริหารเครือข่ายกำหนด
3)
ลบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ต้องการใช้ออกจากระบบ
4)
ผู้ใช้ที่ได้รับสิทธ์ให้ใช้ “โฮมไดเรกทอรี่” ซึ่งเป็นเนื้อเฉพาะของระบบ
จะต้องใช้อย่างมีความรับผิดชอบ ควรใช้เนื้อหาที่ให้พอเหมาะ เพราะเป็นเนื้อที่ของระบบที่มีใช้งานร่วมกัน
1)
ตั้งรหัสผ่านที่ยากแก่การคาดเดา
2)
เปลื่ยนรหัสผ่านอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทุก
3เดือน
3)
ปรับปรุงโปรแกรมป้องกันไวรัสตลอดเวลา
4)
ให้ความรู้แก่บุคลากรในเรื่องความปลอดภัยในการรับไฟล์หรือการดาวน์โหลดไฟล์จากอินเทอร์เน็ต
เช่น อิเมล์
5)
ติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับเครือข่ายอย่างสมบูรณ์
6)
ประเมินสถานการณ์ของความปลอดภัยในเครือข่ายอย่างสม่ำเสมอ
7)
ลบรหัสผ่านและบัญชีการใช้ของพนักงานที่ออกจากหน่วยงานทันที
8)
วางระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับการเข้าถึงระบบเครือข่ายของพนักงานจากภายนอกหน่วยงาน
9)
ปรับปรุงซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ
10)
ไม่ใช้บริการบางตัวบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอย่างไม่จำเป็น
เช่นการดาวน์โหลดโปรแกรมเพราะไวรัสอาจแฝงตัวมากับโปรแกรมต่างๆ ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น